ลำปาง-รองผู้บัญชาการภาค 5 สั่งการเอง เร่งคลี่คล้ายคดีสองสามีภรรยา ผูกคอตายพร้อมกัน

    ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง  นายสุริยา อายุ 50 ปี และนางเพชรา อายุ 47 ปี ได้เดินทางมา เพื่อขอเข้าพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ก่อนที่ทาง  พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง จะมารับเรื่องเบื้องต้น และรายงานให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ได้รับทราบ ว่า ทั้งสองคน ซึ่งเป็นพ่อ และแม่ ได้มาร้องขอความเป็นธรรม กรณีลูกชาย และลูกสะใภ้ คือ นายจรัญฐาธีนากร อายุ 23 ปีและ น.ส.ทิพวรรณ อายุ23 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ใช้เชือกผูกคอตายกับต้นไม้ ด้วยเชือกเส้นเดียวกัน เหตุเกิดขึ้นบริเวณป่าข้างลำห้วยป่าดำ ใกล้กับไร่มันสำปะหลัง ในเขตชุมชนห้วยหล่อ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง โดยพบศพเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา

   ทางพ่อ และแม่ รวมถึงญาติของผู้ตายได้ติดใจการเสียชีวิตดังกล่าว และเชื่อว่า ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่มีมูลเหตุ และมีข้อสงสัยหลายประการ ทั้งการหายตัวออกจากบ้านไป ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2562 ก่อนที่จะมาพบเป็นศพอยู่ในป่าใกล้กับไร่มัน อีกทั้งเงินที่ผู้ตายพกมา 4 - 5 หมื่น ยังหายไปอีกด้วย นอกจากนี้ ก็ไม่มีเหตุจูงใจใด ที่ทั้งสองคนจะฆ่าตัวตาย  เพราะมันสำปะหลังที่ทำการช่วยกันปลูกกำลังจะขุดขาย จะได้เงินอยู่แล้ว รวมถึงลูกของทั้งสองก็ยังเล็ก และปัญหาหนี้สินก็ไม่มี จึงทำให้ญาติเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมแน่นอน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์ สอบสวนแล้ว แต่คดีก็ไม่คืบหน้า ทั้งที่คดีเกิดขึ้นจะครบ 1 เดือนแล้ว

(รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปางรับฟังเรื่องขอความเป็นธรรม)

   จึงอุ้มหลานชาย วัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของผู้ตาย มาขอเข้าพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เพื่อขอให้เร่งรัด และติดตามคดีดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า คดีอาจจะไม่คืบหน้า ก่อนที่จะได้พบกับรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ซึ่ง ทางพ่อ และแม่ของผู้ตาย ยังได้ย้ำถึงสภาพศพของลูกชาย  ซึ่งตอนนั้นปลายเท้าเกือบจะถึงพื้นแต่ปรากฏว่าที่พื้นดิน กลับไม่มีร่องรอยของการตะกุยตะกายของคนที่จะดิ้นก่อนเสียชีวิตด้วย ประกอบกับที่ผ่านมาแพทย์เคยบอกว่าลูกชายมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งอย่างแรงที่บริเวณเข่า จึงไม่มีใครเชื่อว่าทั้งคู่จะฆ่าตัวตายเอง จึงขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย และลูกสะใภ้ด้วย

  ประกอบกับในวันนี้ ยังจะได้นำหลักฐานที่อาจจะเป็นมูลเหตุของการถูกก่อเหตุฆาตกรรมมาแสดงให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูด้วย ว่า ก่อน 1 สัปดาห์ ลูกสะใภ้ได้โพสต์ภาพเงินออมที่เก็บไว้กว่า 1 แสนบาท แล้ววางเรียงกันเป็นรูปวงกลม ก่อนที่จะถ่ายภาพ แล้วโพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว ซึ่งทางครอบครัวคาดว่า อาจจะเป็นมูลเหตุอย่างหลักที่อาจทำให้มีคนร้ายก่อเหตุฆ่า เพื่อชิงเงินดังกล่าวไป เพราะหลังเกิดเหตุเงินจำนวนดังกล่าวได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาประกอบในคดี เพื่อทำการสืบสวนด้วย

(รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เดินทางมาติดตามคดี) 

    ในเรื่องนี้ ทาง พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยังได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.ลำปาง หลังทราบ ว่า ทั้งสองคนเดินทางมาร้องขอความเป็นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง จึงได้เดินทางมายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เพื่อติดตามคดีที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการแนวทางการทำคดีนี้ โดยมี พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง  , พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง , พ.ต.อ.โสภณ ผลกันทาง ผู้กำกับการ สภ.เขลางค์นคร และพนักงานสอบสวนของ สภ.เขลางค์นคร เข้าร่วมประชุม ซึ่งหลังจากทาง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 สั่งการแล้วเสร็จ ก็ให้ นายสุริยา และนางเพชรา อุ้มหลานเข้าพบ เพื่อจะได้พูดคุยกัน และให้คลายความกังวล หลังเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมในคดีดังกล่าว

(พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5)

  พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ว่า คดีนี้ได้สั่งให้ทาง สภ.เขลางค์นคร ติดตาม และเร่งทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และอย่างรอบครอบในทุกด้าน เพื่อคลี่คล้ายคดีนี้โดยเร็ว โดยให้ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ลงไปช่วยในการสืบสวนในพื้นที่ ส่วนหลักฐานอื่นๆ นั้น ก็ว่ากันไป โดยเฉพาะผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ของศูนย์พิสูจน์หลักฐานลำปาง ถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รอผลตรวจ สำหรับในข้อสงสัย หรือที่ญาติติดใจในเรื่องใด ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบ ให้เกิดความกระจ่าง เพื่อให้เกิดความสบายใจต่อญาติ และครอบครัว

    ด้าน นายสุริยา พ่อของผู้ตาย บอกว่า การเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม และได้พบกับทางรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งท่านได้สั่งการต่างๆ ทันที ก็คลายความกังวลลงไปได้บ้าง เพราะที่ผ่านมา ไม่รู้จะไปร้องกับใคร อยากให้คดีมีความกระจ่าง มีความคืบหน้า หลังเกิดเหตุ ตนเองก็มีความทุกข์ใจมาก เพราะเหตุเกิดขึ้นมานาน และคดีก็ไม่มีคืบ ยิ่งนานวันตนเองก็เกิดกลัว ตอนนี้ไม่กล้านอนอยู่ในไร่มันแล้ว ต้องไปอยู่ที่อื่น เพราะเป็นห่วงในเรื่องความไม่ปลอดภัย ที่ผ่านมาก็ไปแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ว่า ตนเองไม่เชื่อว่าลูกทั้งสองจะฆ่าตัวตาย และเชื่อว่าถูกฆาตกรรม ก่อนนำศพไปอำพราง จึงได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา.

ฅนลำปางดอทคอม