Hot News!


  • มีเสียงร้องโหยหวน! คาดวิญญาณลูก ร้องขอความเป็นธรรม คดีผูกคอเสียชีวิต ทั้งสามี-ภรรยา

    วันอาทิตย์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 18:19 น.
    มีเสียงร้องโหยหวน! คาดวิญญาณลูก ร้องขอความเป็นธรรม คดีผูกคอเสียชีวิต ทั้งสามี-ภรรยา
    มีเสียงร้องโหยหวน! คาดวิญญาณลูก ร้องขอความเป็นธรรม คดีผูกคอเสียชีวิต ทั้งสามี-ภรรยา

       จากกรณีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนผูกคอตายที่บริเวณไร่มันสำปะหลังแห่งหนึ่งในเขตชุมชนบ้านห้วยหล่อ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ที่บริเวณข้างลำห้วยป่าดำ โดยพบศพ นายจรัญฐาธีนากร อายุ 23 ปี และ น.ส.ทิพวรรณ สิมโสม อายุ 23 ปีภรรยา ทั้งสองเป็นชาว จ.อุบลราชธานี ใช้เชือกผูกคอตายกับต้นไม้ ด้วยเชือกเส้นเดียวกัน  โดยพ่อ และแม่ของผู้ตายไม่ปักใจเชื่อว่าทั้งสองคนจะฆ่าตัวตายเอง เนื่องจากไม่มีมูลเหตุ ประกอบกับมีข้อสงสัยหลายประการ อีกทั้งเงินที่ผู้ตายพกมา 4 - 5 หมื่นบาท ยังหายไปด้วย

        (24ก.พ.62) ผู้สื่อข่าวได้รายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายุสริยา  อายุ 50 ปี และนางเพชรา   อายุ 47 ปี พ่อ และแม่ พร้อมด้วยญาติของผู้ตายทั้งคู่ได้นำธูปเทียนไปจุดบอกกล่าวลูกชาย และลูกสะใภ้ บริเวณที่ทั้งคู่ผูกคอตาย พร้อมบอกกล่าวให้วิญญาณ หากไม่ได้รับความยุติธรรมให้ช่วยครอบครัวไขปริศนา หรือมาเข้าฝัน เพื่อจะได้ติดตามสาเหตุการตายที่แท้จริง

      โดยทางครอบครัวเผยว่า ทุกวันนี้ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่น่าแปลก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เหมือนมีเสียงผู้หญิงร้องดังโหยหวนเหมือนคนร้องไห้อยู่รอบบ้าน  กระทั่งเช้าวันนี้ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง ได้โทรมานัดว่า ในช่วงเย็นของวันนี้ ให้ไปพบ เพื่อฟังผลทางคดี จึงเชื่อว่าวิญญาณของลูกคงจะมาร้องขอความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุมานานเกือบ 1 เดือน และทางครอบครัวไม่เชื่อว่าทั้งคู่จะผูกคอตายเอง เนื่องจากไม่มีมูลเหตุจูงใจใดๆ ที่ทั้งคู่จะผูกคอตาย เพราะมันสำปะหลังก็กำลังจะขุดขาย ลูกของทั้งสองก็ยังเล็ก ทั้งเงินค่าขายมันสัมปะหลังประมาณ 4 - 5 หมื่นก็ยังหายไปอีกด้วย

      “ที่สำคัญ คือ สภาพศพของลูกชาย ซึ่งตอนนั้นปลายเท้าเกือบจะถึงพื้นแต่ปรากฏว่าที่พื้นดิน กลับไม่มีร่องรอยของการตะกุยตะกายของคนที่จะดิ้นก่อนเสียชีวิตด้วย ประกอบกับที่ผ่านมาแพทย์เคยบอกว่าลูกชายมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งอย่างแรงที่บริเวณเข่า จึงไม่มีใครเชื่อว่าทั้งคู่จะฆ่าตัวตายเอง จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย และลูกสะใภ้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความยุติธรรมด้วย เพื่อให้วิญญาณของทั้งคู่จะได้ไปสู่สุขคติ”

         ด้าน นางวาสนา อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นป้า เปิดเผยว่าใครที่เห็นสภาพศพของทั้งคู่ตอนที่ผูกคอตาย ไม่มีใครเชื่อว่าทั้งคู่จะฆ่าตัวตายเอง และในวันที่เผาศพ ก็ได้ไปดูหน้าหลานเป็นครั้งสุดท้ายพบว่าที่ใบหน้าด้านขวาของฝ่ายหญิงมีรอยมือคล้ายถูกตบหน้าอย่างแรง ส่วนฝ่ายชายก็ตายผิดปกติปลายเท้าก็จะถึงพื้นดินแต่กลับไม่มีร่องรอยการดิ้นก่อนที่จะเสียชีวิต จึงเชื่อว่าทั้งคู่อาจจะไปรู้เห็นอะไรบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อตัวเองถึงชีวิต จึงถูกฆ่าก่อนอำพรางคดี และที่สำคัญกิ่งไม้ยังมีร่องรอยของการดึงเชือก คล้ายกับดึงฝ่ายหญิงแขวนคอก่อน แล้วก็แขวนคอฝ่ายชายตาม.

    ฅนลำปางดอทคอม