ลำปาง - ป่วยแล้ว! กว่า 3,300 ตัว โรคระบาดลัมปีสกิน พบโค กระบือ ป่วยในทุกอำเภอ

   วันที่ 19 ตุลาคม 2564 เวลา 15.30 น. นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายศร ธีปฏิมากร ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง , นางสาวรตนพร กิติกาศ เกษตร และสหกรณ์จังหวัดลำปาง และ นายชัยธวัช ศิวบร หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ได้เข้าติดตามสถานการณ์โรคลัมปีสกิน (Lumpy Skin Disease) ในสัตว์เลี้ยง ภายในพื้นที่หมู่บ้านบอมพัฒนา ม.6 ต.บ้านบอม อ.แม่ทะ จ.ลำปาง หลังพื้นที่ อ.แม่ทะ เกิดโรคระบาดอย่างหนักในโคที่เลี้ยง มีโคเกิดป่วยสะสมอยู่กว่า 500 ตัว กระจายใน 59 หมู่บ้าน 9 ตำบล และเกิดตายสะสมลงไปแล้ว 37 ตัว

 ตั้งแต่พบการระบาด ก็มีการประกาศให้พื้นที่เป็นเขตโรคระบาด ห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายโค และซากออกจากพื้นที่ เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค พร้อมทั้งเร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยง ด้วยการรักษาโคที่ป่วย และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคไม่ให้เกิดการระบาดเป็นบริเวณกว้าง ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่พื้นที่ อ.แม่ทะ เท่านั้น แต่อำเภออื่นๆ ใน จ.ลำปาง อีก 12 อำเภอ ก็พบโค และกระบือ ป่วยด้วยโรคดังกล่าว

  นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ จ.ลำปาง พบว่ามีโค กระบือ ป่วยติดเชื้อโรคลัมปีสกิน สะสม 3,305 ตัว ตายจากโรคนี้แล้ว 241 ตัว ซึ่งหลังจากพบว่า โค กระบือ ป่วยเป็นโรคดังกล่าว ก็มีการประกาศกำหนดเขตโรคระบาดในสัตว์ ชนิดลัมปีสกิน มาตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

   “จำนวนโค กระบือ ใน จ.ลำปาง ที่พบว่าป่วยเป็นโรคระบาด หากเทียบกับตัวเลขโค กระบือ ที่เกษตรกรเลี้ยงทั้งจังหวัดกว่า 100,000 ตัว ถือว่าเป็นเปอร์เซนการป่วยที่น้อย โดยที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่พบการระบาด ก็ได้เข้าไปจัดการป้องกัน และควบคุมการระบาดได้อย่างทันถ่วงที ส่วนโคป่วยที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปรักษาอย่างถูกต้อง และอย่างถูกวิธี จนหายป่วยแล้วเป็นจำนวนมาก ส่วนที่รักษาไม่ทัน หรือมีอาการรุนแรงก็เกิดล้มตายลง”

   ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ จ.ลำปาง รอบสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ก็ดีขึ้น ไม่พบโค กระบือ ป่วยเพิ่ม แต่ทางจังหวัด ก็จะติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง หากไม่มีโค กระบือ ป่วยรายใหม่ ก็ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น ทางจังหวัดลำปาง ก็จะได้ผ่อนคลายยกเลิกประกาศกำหนดเขตพื้นที่โรคระบาด ส่วนโค กระบือ ของเกษตรกรที่ล้มตายลงไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็จะได้ช่วยเหลือ และเยียวยาตามระเบียบของราชการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงตามลำดับต่อไป.

ฅนลำปางดอทคอม